6.1 บทนำ
การ์ดแสดงผล หรือ (Display Card)
หรือนิยมเรียกว่า"การ์ดจอ" มีหน้าที่เปลี่ยนสัญญาณดิจิตอล ให้เป็นสัญญาณภาพ
โดยมี Chip เป็นตัวหลักในการประมวลการแปลงสัญญาณ ส่วนภาพนั้น CPU เป็นผู้ประมวลผล
แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีประมวลผลภาพนั้น VGA Card เป็นผู้ประมวลผลเองโดย Chip นั้น
ได้เปลี่ยนเป็น CPU ซึ้งมีการประมวลภาพในตัว Card เอง เทคโนโลยีเป็นที่แพร่หลายมากเนื่องจากราคาเริ่มปรับตัวต่ำลงมาจากเมื่อก่อนที่เทคโโลยีนี้เพิ่งเข้ามาใหม่ ๆโดย GPU ค่ายเอ็นวินโด (NVIDIA) เป็นผู้ริเริ่มการตลาด
6.2 ชนิดของการ์ดแสดงผล
อุปกรณ์ตัวนี้เป็นตัวสำคัญในการกำหนดว่าจะมีอะไรไปออกที่จอภาพได้บ้าง รวมไปถึงความละเอียดและสีที่จะแสดงออกบนจอภาพ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับโครงสร้างของวงจรบนการ์ด และมีส่วน สัมพันธ์กับชอฟต์แวร์ที่จะให้ในการแสดงผลเป็นอย่างมาก ต่อไปนี้เราจะมาทำความรู้จักกับการ์ด
แสดงผลในแต่ละแบบโดยเริ่มกันที่การ์ดแสดงผลรุ่นบุกเบิกของไอบีเอ็มคือ MDA
MDA (Monochrome Display Adapter) เป็นการ์ดแสดงผลรุ่นแรกของไอบีเอ็ม นิยมใช้กับจอโมโนโครมสามารถแสดงผลได้เฉพาะข้อความ (text) เท่านั้น และแสดงได้เพียงสีเดียว
ไม่สามารถแสดงรูปกราฟิกใด ๆ ได้ เนื่องจากเป็นข้อจำกัดของการ์ดแสดงผลเอง ปัจจุบันนี้แทบ
จะไม่มีใช้กันแล้ว เพราะว่าชอฟต์แวร์ปัจจุบันส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การแสดงผลกราฟิกและสีสัน
ที่สวยงาม
CGA (Color Graphics Adapter) เป็นการ์ดรุ่นถัดมาของไอบีเอ็มที่สามารถแสดงได้ทั้ง
ข้อความและรูปภาพ โดยสีที่แสดงจะได้สูงสุดถึง 16 สี แต่จะขึ้นอยู่กับความละเอียดในการแสดง
ผลด้วยกล่าวคือ ถ้าความละเอียดในการแสดงผลมาก จำนวนสีที่แสดงได้ก็น้อยลง เช่น ถ้ามีความ-
ละเอียดในการแสดงผลสูงสุด 640 X 200 จุด จะสามารถแสดงสีได้เพียง 2 สีเท่านั้น คือขาวกับดำ
แต่ถ้าเป็นความละเอียด 320 X 200 จุด ก็จะแสดงสีได้ 4 สี เป็นต้น ทั้งนี้เนื่องมาจากหน่วยความ
จำบนการ์ดมีอยู่อย่างจำกัดหน่วยความจำที่ว่านี้ก็คือวิดีโอแรมที่ใช้เก็บรูปภาพบนจอ
เฮอร์คิวลิส (hercules) สืบเนื่องจากข้อจำกัดของการ์ดแสดงผลแบบ MDA ที่แสดงผล
ได้เฉพาะข้อความบนจอโมโนโครมเท่านั้น การที่จะเปลี่ยนไปใช้การ์ดแสดงผลแบบ CGA เพื่อให้
สามารถแสดงรูปภาพที่เป็นกราฟิกได้ก็จำเป็นต้องไปหาซื้อจอสีมาใช้ ซึ่งจะมีราคาสูงกว่าจอโมโน
โครมมากพอสมควร
6.3 หน่วยความจำบนการ์ดแสดงผลกับความละเอียดของการแสดงผล
การ์ดแสดงผลจะต้องมีหน่วยความจำที่เพียงพอในการใช้งาน เพื่อใช้สำหรับเก็บข้อมูลที่ได้รับมาจาก
ซีพียู และสำหรับการ์ดแสดงผลบางรุ่น ก็สามารถแสดงผลได้ภายในตัวการ์ด โดยทำหน้าที่ในการประมวลผลภาพแทนซีพียู ช่วยให้ซีพียูมีเวลาว่างมากขึ้น
เมื่อได้รับข้อมูลจากซีพียูมา การ์ดแสดงผลก็จะเก็บข้อมูลที่ได้รับมาไว้ในหน่วยความจำนี้นี่เอง ถ้าการ์ดแสดงผล มีหน่วยความจำมาก ๆ ก็จะรับข้อมูลจากซีพียู ได้มากขึ้น ช่วยให้การแสดงผลบนจอภาพที่มาจากซีพียูมีขนาดใหญ่ขึ้น
6.4 การเลือกซื้อการ์ดแสดงผล
ในการเลือกซื้อการ์ดแสดงผลต้องประเมินดูสภาพการใช้งานว่มีลักษณะเป็นเช่นไร โดยอาจแบ่งแยกงานเป็นสองกลุ่มคือ งานประเภทต้องใช้ภาพสามมิติ หรือการแสดงผลมัลติมิเดีย การตัดต่อวิดีโอ กับอีกกลุ่มได้แก่ การใช้งานทั่วไปในสำนักงานใช้เพื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
6.5 จอภาพ (Monitor)
จอภาพ เป็นอุปกรณ์ที่รับสัญญาณจากการ์ดแสดงผล มาแสดงเป็นภาพบน จอภาพ ซึ่งเทคโนโลยีจอภาพในปัจจุบันคงจะเป็น จอภาพแบบ Trinitron และ Flat Screen(จอแบน) ไม่ว่าจะเป็น CRT(moniter ทั่วไป) หรือ LCD (จอที่มีลักษณะ
แบนเรียบทั้งตัวเครื่อง)
แบนเรียบทั้งตัวเครื่อง)
6.6 ชนิดของจอภาพ
สามารถแบ่งชนิดของจอภาพออกได้เป็น 2 ชนิดคือ
1. จอภาพแบบซีอาร์ที (CRT)
2. จอภาพแบบเอลซีดี (LCD)
6.7 สัดส่วนของจอภาพ
ขนาดของจอภาพวัดกันด้วยเส้นแทยงมุม โดยขนาดที่มีความนิยมและผู้ผลิตได้ผลิตออกจำหน่ายมีหลายขนาดตั้งแต่ 14 นิ้ว 15 นิ้ว 17 นิ้ว และ 21 นิ้ว
6.8 การพิจารณาเลือกซื้อจอภาพ
การเลือกซื้อจอภาพเกี่ยวข้องโดยตรงกับงบประมาณที่จะจัดซื้อ โดยถ้ามีงบมากการเลือกซื้อ
จอเอลซีดีก็จะเป็นไปได้ แต่ถ้าต้องการแบบทีอาร์ซี และเป็นจอแบบราบที่มีขนาดใหญ่เช่น 17-19 นิ้ว ก็จะมีราคาสูงขึ้น
รูปลักษณ์ และความสวยงาม
หลายครั้งที่เรามักจะให้ความรู้สึกในเรื่องรูปลักษณ์เหนือกว่าประสิทธิภาพที่จะได้ รับ เช่นเดียวกับจอแอลอีดีก็เช่นกัน ที่ผู้ใช้มักจะเอาความสวยงามมาเป็นตัวเปรียบเทียบ แต่ก็ไม่ได้เป็น เรื่องที่ผิดเสียทีเดียว เพราะเรื่องของดีไซน์ก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใช้ต้องสัมผัส และพบเจอในการใช้งานอยู่ทุกวัน หากไม่สวยโดนใจ หรือไม่เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ในบ้านมันก็คงดูขัดตา
หลายครั้งที่เรามักจะให้ความรู้สึกในเรื่องรูปลักษณ์เหนือกว่าประสิทธิภาพที่จะได้ รับ เช่นเดียวกับจอแอลอีดีก็เช่นกัน ที่ผู้ใช้มักจะเอาความสวยงามมาเป็นตัวเปรียบเทียบ แต่ก็ไม่ได้เป็น เรื่องที่ผิดเสียทีเดียว เพราะเรื่องของดีไซน์ก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใช้ต้องสัมผัส และพบเจอในการใช้งานอยู่ทุกวัน หากไม่สวยโดนใจ หรือไม่เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ในบ้านมันก็คงดูขัดตา
ความละเอียด (Resolution)
คงเคยเห็นบ่อย ๆ สำหรับ Resolution ที่มักจะต่อท้ายรายละเอียดของรุ่นต่าง ๆ ของจอแอลอีดี จะได้รู้กันละครับว่าปกติแล้ว Resolution ของจอแอลซีดีปกติแล้วมีความละเอียดเท่าไหร่ ความละเอียดส่วน ใหญ่ถูกกำหนดด้วยขนาดของจออยู่แล้ว เช่น จอขนาดเล็ก 15 นิ้ว ก็จะให้ความละเอียดที่ 1024x768 แต่ถ้า เป็น 18.5 นิ้ว จะอยู่ที่ 1600x900 และ 21.5 นิ้วขึ้นไป 1920x1080 ซึ่งการจะเลือกใช้ ก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบในการทำงานไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมชมภาพยนตร์ งานเอกสาร ตัดต่อ กราฟิกก็ล้นแต่มีข้อกำหนดที่แตกต่างกันออกไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น